
เซนทอร์ มนุษย์ครึ่งม้า ในตำนานกรีก
- J. Kanji
- 44 views
เซนทอร์ มนุษย์ครึ่งม้า มีต้นกำเนิดมาจาก ตำนานกรีกโบราณ บางตัวดูสง่างาม บางตัวดูดุร้าย แต่ลึก ๆ แล้วพวกเขาก็มีเรื่องราว และบทบาทที่หลากหลาย มากกว่าที่เราคิด บทความนี้ จะพาไปสำรวจ โลกของเซนเทอร์ ว่าแท้จริงแล้ว พวกเขาคือใคร มีที่มายังไง และมีอะไรที่น่าสนใจซ่อนอยู่บ้าง
ตำนานกรีกเล่าว่า เซนทอร์มีต้นกำเนิด จากอิกซีออน กษัตริย์แห่งลาพิธ ผู้พยายามล่วงเกินเฮร่า มเหสีของเทพซุส ด้วยความโมโห ซุสจึงสร้างเมฆ ที่มีรูปร่างเหมือนเฮร่าชื่อว่า เนเฟเล เพื่อหลอกอิกซีออน เมื่ออิกซีออนหลงกล เขาก็สมสู่กับเนเฟเล และเธอให้กำเนิดเซนทอรัส บิดาของเหล่าเซนทอร์ทั้งหมด
อีกเรื่องเล่าบอกว่า เซนทอร์เกิดจากการผสมพันธุ์ ระหว่างเซนทอรัส กับม้าตัวเมีย แถวภูเขาพีเลียน ทางเหนือของกรีซ เซนทอร์จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ ของการละเมิดขอบเขต ระหว่างมนุษย์กับสัตว์
บางทฤษฎีบอกว่า แนวคิดเรื่องเซนทอร์ อาจเกิดจากการที่ชาวกรีกโบราณ เห็นชนเผ่าที่ขี่ม้าเป็นครั้งแรก และเข้าใจผิดว่า คนกับม้าเป็นร่างเดียวกัน [1]
เซนทอร์มีร่างกาย ท่อนบนเป็นมนุษย์ ท่อนล่างเป็นม้าพร้อมสี่ขา และหาง ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีกล้ามแข็งแรง ผมยาว มีหนวดเครา มักถือธนู กระบอง หรือหอกเป็นอาวุธ โดยธรรมชาติ พวกเขามักถูกมองว่าดุร้าย ชอบดื่มเหล้า และมีอารมณ์ทางเพศสูง พวกเขาอาศัยในภูเขาสูง ห่างจากบ้านเมืองมนุษย์
เซนทอร์มีความเร็ว และแรงของม้า ผสมกับสติปัญญามนุษย์ แต่มักควบคุม สัญชาตญาณสัตว์ไม่ได้ พวกเขาเป็นตัวแทน ของความปั่นป่วนในจิตใจ ระหว่างด้านดิบเถื่อน และเหตุผล เช่นเดียวกับ มิโนทอร์ มนุษย์ครึ่งวัว ผู้เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ ของการผสม ระหว่างมนุษย์ กับสัตว์ป่า มิโนทอร์ถูกขัง อยู่ในเขาวงกต
เปรียบได้กับสัญชาตญาณดิบ ที่ถูกจองจำไว้ลึกในจิตใจ ส่วนเซนทอร์ มักปรากฏตัวในธรรมชาติ อันกว้างใหญ่ ราวกับเป็นด้านดิบเถื่อน ที่ยังคงวิ่งอิสระในตัวมนุษย์ แต่ก็มีข้อยกเว้นอย่างไคโรน เซนทอร์ผู้มีปัญญาเฉียบแหลม มีมารยาท และรอบรู้วิชาการหลายแขนง จนได้เป็นครูของวีรบุรุษหลายคน ในตำนานกรีก
เรื่องราวที่โด่งดังที่สุด เกี่ยวกับเซนทอร์ คือการต่อสู้ระหว่างพวกเขา กับชาวลาพิธ หรือที่เรียกว่า “เซนทอโรมาคี” มันเริ่มต้นในงานแต่งงาน ของพิริธูส กษัตริย์แห่งลาพิธ กับเจ้าสาวฮิปโปดาเมีย ซึ่งได้เชิญเซนทอร์ มาร่วมงาน
ระหว่างงานเลี้ยง พวกเซนทอร์ดื่มไวน์จนเมา ยูรีทัส หัวหน้าเซนทอร์ ได้พยายามลักพาตัวเจ้าสาว เหตุการณ์นี้ นำไปสู่การต่อสู้รุนแรง ระหว่างเซนทอร์ กับชาวลาพิธ โดยมีธีซุส วีรบุรุษชาวเอเธนส์ มาช่วยฝ่ายลาพิธ สุดท้ายชาวลาพิธชนะ และขับไล่เซนทอร์ ออกจากแคว้นเธสซาลี
เรื่องนี้ถูกตีความว่า เป็นการต่อสู้ระหว่างอารยธรรม กับความป่าเถื่อน ระหว่างการควบคุมตนเอง กับการปล่อยตามใจสัญชาตญาณ ภาพสลักเหตุการณ์นี้ ปรากฏบนอาคารสำคัญ หลายแห่งในกรีซโบราณ รวมถึงวิหารพาร์เธนอน ในเอเธนส์อีกด้วย
ท่ามกลางเซนทอร์ ที่ถูกมองว่าป่าเถื่อน ไคโรนเป็นข้อยกเว้นที่น่าทึ่ง เขาเป็นลูกของโครนอส กับนิมฟ์ฟิลิรา ทำให้มีสายเลือดไททัน ไม่ใช่ลูกหลานของอิกซีออน และเนเฟเล เหมือนเซนทอร์อื่นๆ ไคโรนรอบรู้วิชาต่างๆ ทั้งการแพทย์ ดนตรี การล่า ดาราศาสตร์ และศิลปะการสู้รบ
เขาอาศัยในถ้ำ บนภูเขาพีเลียน และสอนวีรบุรุษมากมาย เช่น อคิลลีส เจสัน แอสคลีพิอัส และเฮอร์คิวลีส โศกนาฏกรรมของไคโรน เกิดขึ้นเมื่อถูกลูกธนูอาบยาพิษ ของเฮราคลีส โดยไม่ตั้งใจ ด้วยความเป็นอมตะ เขาจึงทรมานจากพิษ ที่รักษาไม่ได้ สุดท้ายเขายอมสละความเป็นอมตะ ให้โพรมีธีอุส และยอมตาย
ซูสยกย่องไคโรน ด้วยการเปลี่ยนร่างเขา ให้เป็นกลุ่มดาวคนยิงธนู หรือกลุ่มดาวคนตัวม้า ไคโรนแสดงให้เห็นว่า แม้จะมีร่างกายแบบสัตว์บางส่วน แต่ปัญญา และคุณธรรม สามารถอยู่เหนือข้อจำกัด ทางร่างกายได้ [2]
แม้เวลาผ่านไปหลายพันปี แต่เซนทอร์ยังมีอิทธิพล ต่อวัฒนธรรมปัจจุบันอย่างมาก พวกเขาปรากฏในหนังสือ หนัง เกม และสื่อบันเทิงมากมาย เช่น
เซนทอร์ มนุษย์ครึ่งม้า ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตำนาน แต่เป็นสัญลักษณ์ ของการดิ้นรน ระหว่างเหตุผล กับสัญชาตญาณภายในใจมนุษย์ และคำถามสุดท้าย ที่เซนทอร์อาจทิ้งไว้ให้เราคิดก็คือ “เมื่อเรามีทั้งเหตุผล และสัญชาตญาณอยู่ในตัว เราจะเลือกให้สิ่งใดเป็นผู้นำ?”
เพราะร่างกายของเซนทอร์ ที่ผสมผสานระหว่างมนุษย์กับม้า เป็นสัญลักษณ์ ของความขัดแย้ง ระหว่างความมีเหตุผลของมนุษย์ กับสัญชาตญาณของสัตว์ ความขัดแย้งนี้ ทำให้พวกเขา เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสนใจ ในการศึกษาธรรมชาติ ของมนุษย์
ในขณะที่สัตว์ผสมอื่นๆ เช่น สฟิงซ์ หรือมิโนทอร์ มักถูกมองว่าเป็นอสูรร้าย ที่ต้องถูกปราบ แต่เซนทอร์มีบทบาท ที่ซับซ้อนกว่า พวกเขาสามารถเป็นได้ทั้งศัตรู หรือมิตรของมนุษย์ มีทั้งเซนทอร์ที่ป่าเถื่อน และเซนทอร์ที่มีปัญญา อย่างไคโรน ความซับซ้อนนี้ ทำให้พวกเขาน่าสนใจ กว่าสัตว์ผสมอื่นๆ ในตำนาน