
หมึกยักษ์ คราเคน อสูรใต้ทะเลในตำนานนอร์ส
- J. Kanji
- 62 views
หมึกยักษ์ คราเคน เป็นสัตว์ทะเลขนาดมหึมา ในตำนานของชาวนอร์ส โดยเฉพาะในเรื่องเล่า ของชาวนอร์เวย์ และไอซ์แลนด์โบราณ ถูกบรรยายว่า เป็นหมึกยักษ์ หรือปลาหมึกขนาดใหญ่เท่าเกาะ ที่สามารถดึงเรือทั้งลำ ลงสู่ก้นทะเล ได้ด้วยหนวดอันทรงพลังของมัน และยังเป็นเรื่องที่เล่าต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
ตำนานคราเคน มีรากเหง้ามาจากแถบ นอร์เวย์ และ ไอซ์แลนด์ ในยุคกลาง โดยคำว่า “Kraken” มาจากภาษานอร์สโบราณว่า kraki หรือ krake ซึ่งหมายถึง สัตว์ทะเลขนาดใหญ่ หรือสิ่งมีชีวิต ที่ดูผิดธรรมชาติ เรื่องเล่าที่เก่าแก่ที่สุด ที่กล่าวถึงคราเคน คือบันทึกของ Erik Pontoppidan
นักธรรมชาติ วิทยาชาวเดนมาร์ก ระบุว่าคราเคน เป็นสัตว์ที่มีลำตัว ขนาดเท่าเกาะ มันจะขึ้นมาสู่ผิวน้ำเป็นบางครั้ง และมักจะดึงเรือ เข้าสู่ท้องทะเล ด้วยหนวดขนาดมหึมา ชาวประมงในแถบ สแกนดิเนเวีย เชื่อว่าตรงไหนมีปลาเยอะ ตรงนั้นจะมีคราเคนซ่อนอยู่ เพราะสารคัดหลั่งของคราเคน จะดึงดูปลาให้มาที่นั่น [1]
ในภาพจำของผู้คน คราเคนเป็นสัตว์ทะเล ขนาดใหญ่ ลำตัวกว้างเท่าเกาะ หนวดแผ่ไปรอบทิศทาง ได้หลายร้อยเมตร ซึ่งทำให้มันสามารถ พันเรือขนาดใหญ่ทั้งลำ และลากลงทะเลได้อย่างง่ายดาย
หลังของมันกว้างใหญ่ จนชาวประมงเข้าใจผิด คิดว่าเป็นเกาะ และเมื่อพวกเขาขึ้นไปบนหลังของมัน คราเคนก็จะดำดิ่งลงสู่ท้องทะเล พาพวกเขาจมน้ำตายไปด้วย นอกจากนี้ ยังมีเรื่องเล่าว่า แค่การเคลื่อนตัวของคราเคน ก็สามารถสร้างกระแสน้ำวน ที่สามารถดูดเรือ ลงไปในทะเลลึกได้
สำหรับชาวนอร์ส ที่ใช้ชีวิตพึ่งพาทะเล คราเคนเป็นสัญลักษณ์ ของพลังอำนาจ และอันตราย ของธรรมชาติ ที่ไม่อาจควบคุมได้ ชาวประมง และนักเดินเรือนอร์ส มักมีความเคารพ และหวาดกลัว ต่อทะเลลึก พวกเขามักจะเล่าเรื่องคราเคน เพื่อเตือนนักเดินเรือ ให้ระมัดระวัง และไม่ประมาท
บางตำนาน เชื่อมโยงคราเคน กับเทพเจ้าแห่งทะเลอย่าง “เอจีร์” (AEgir) และ “ราน” (Ran) ซึ่งเป็นผู้ควบคุมพายุ และคลื่นในทะเล โดยมีความเชื่อว่า คราเคนอาจเป็นสัตว์รับใช้ หรือบุตรของพวกเขา การบูชาเทพเจ้าทะเล ก่อนออกเดินเรือ
เป็นประเพณีสำคัญ ของชาวนอร์ส เพื่อขอพรให้ปลอดภัย จากคราเคน และภัยทะเลอื่นๆ
ถ้าหาก มิโนทอร์ มนุษย์ครึ่งวัว เป็นปีศาจแห่งแผ่นดิน คราเคนก็คืออสูรแห่งท้องทะเล ต่างเป็นภาพแทนของอันตรายสุดขั้วที่มนุษย์พยายามหลีกเลี่ยง
นักวิทยาศาสตร์ สันนิษฐานว่า ตำนานคราเคน อาจมีที่มาจากการพบเห็น ปลาหมึกยักษ์ (Giant squid) หรือปลาหมึกยักษ์ โคโลซอล (Colossal squid) ที่มีอยู่จริงในธรรมชาติ ปลาหมึกยักษ์ สามารถมีความยาวได้ถึง 13 เมตรรวมหนวด และปลาหมึกยักษ์โคโลซอล สามารถมีน้ำหนักได้มากกว่า 700 กิโลกรัม
แม้ขนาดจะไม่ใหญ่ เท่าในตำนาน แต่ก็นับว่าเป็นสัตว์ที่น่ากลัว สำหรับนักเดินเรือ ในสมัยโบราณ นอกจากนี้ ลักษณะการลอยตัว ของปลาหมึกยักษ์ บริเวณผิวน้ำ หลังจากตาย อาจทำให้ดูคล้ายเกาะขนาดเล็ก ซึ่งสอดคล้องกับ เรื่องเล่าของคราเคน
นักวิทยาศาสตร์บางคน เชื่อว่าปลาหมึกยักษ์ในอดีต อาจมีขนาดใหญ่กว่าปัจจุบัน เนื่องจากสภาพแวดล้อม ที่แตกต่างไป นอกจากนี้ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ อย่างน้ำวนขนาดใหญ่ (whirlpools) และแก๊สมีเทน ที่พุ่งขึ้นมาจากใต้ทะเล (methane eruptions) ก็อาจเป็นอีกที่มา ของตำนานคราเคนเช่นกัน
แม้คราเคน จะเป็นตำนานของชาวนอร์ส แต่ความนิยมของมัน แพร่กระจายไปทั่ว นักเขียนชื่อดังอย่าง เอลเฟรด เทนนีสัน (Alfred Tennyson) ยังได้กล่าวถึงคราเคน ในบทกวี “The Kraken” และเฮอร์มันน์ เมลวิลล์ (Herman Melville) ก็ได้อ้างถึงในนวนิยายเรื่อง “Moby-Dick”
นอกจากนี้ ยังปรากฏในนวนิยายของจูลส์ เวิร์น (Jules Verne) เรื่อง “Twenty Thousand Leagues Under the Sea” ซึ่งตัวละคร ต้องต่อสู้กับปลาหมึกยักษ์ ที่ได้รับแรงบันดาล ใจจากคราเคนอีกด้วย [2]
คราเคนไม่ได้หยุดอยู่แค่ ในตำนานนอร์ส แต่ได้กลายเป็น หนึ่งในสัตว์ประหลาด ที่โด่งดังในวรรณกรรม และภาพยนตร์ คราเคนได้ปรากฏตัวในสื่อต่าง ๆ มากมาย เช่น
หมึกยักษ์ คราเคน เป็นตัวแทน ของความไม่แน่นอน ความกลัว และความลี้ลับ ของธรรมชาติ ที่มนุษย์ยังไม่สามารถควบคุมได้ แม้ในยุคปัจจุบัน ที่วิทยาศาสตร์ก้าวหน้าไปไกล ตำนานคราเคน ก็ยังคงมีเสน่ห์ในตัวมันเอง และยังคงสร้างแรงบันดาลใจ ให้กับจินตนาการ ของผู้คนไม่รู้จบ
ในตำนานนอร์ส คราเคนถูกบรรยายว่า มีขนาดใหญ่เท่าเกาะ มีหนวดยาวนับสิบ หรือร้อยเมตร ที่สามารถพันรอบเรือใหญ่ได้ทั้งลำ บางครั้งนักเดินเรือ ถึงกับเข้าใจผิด คิดว่าหลังของมันเป็นเกาะ และขึ้นไปตั้งแคมป์ ก่อนที่มันจะดำดิ่ง ลงสู่ท้องทะเล และพาพวกเขาจมน้ำตาย
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า ตำนานคราเคน อาจมีที่มาจากการพบเห็น ปลาหมึกยักษ์ (Giant squid) หรือปลาหมึกยักษ์โคโลซอล (Colossal squid) ที่มีอยู่จริงในธรรมชาติ ที่สามารถมีความยาวได้ถึง 13 เมตรรวมหนวด และปลาหมึกยักษ์โคโลซอล สามารถมีน้ำหนัก ได้มากกว่า 700 กิโลกรัม