
มิโนทอร์ มนุษย์ครึ่งวัว แห่งเขาวงกต
- J. Kanji
- 47 views
มิโนทอร์ มนุษย์ครึ่งวัว เป็นสิ่งมีชีวิต ในตำนานกรีกโบราณ ที่โด่งดังมากๆ เขาเป็นสัตว์ประหลาด ที่ถูกกักขังอยู่ในเขาวงกต บนเกาะครีต ในตำนานเรื่องราวของเขา เต็มไปด้วยคำสาป ความรัก ความเจ็บปวด และการต่อสู้สุดระทึก กับวีรบุรุษชื่อดัง มาดูกันว่าเรื่องราวของมิโนทอร์ มีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง
ตำนานมิโนทอร์ เริ่มขึ้นจากการไม่รักษาสัญญา ของกษัตริย์มินอส แห่งเกาะครีต ครั้งหนึ่งเขาต้องการแสดงว่า เขาคือผู้ที่ได้รับเลือก จากเหล่าเทพ ให้ครองบัลลังก์ จึงขอให้เจ้ามหาสมุทร โพไซดอน ส่งวัวศักดิ์สิทธิ์มาเป็นเครื่องพิสูจน์ การยอมรับของเทพเจ้า โพไซดอนก็จัดให้ ส่งวัวสีขาวงดงาม จากท้องทะเลขึ้นฝั่ง
แต่เมื่อมินอสเห็นว่า วัวงามขนาดนี้ เขากลับเปลี่ยนใจ ไม่ยอมบูชายัญ ตามที่สัญญาไว้ และแอบเปลี่ยนวัวตัวอื่น ไปบูชาแทน โพไซดอนจึงสาปให้ ราชินีพาซิฟาอี ภรรยาของกษัตริย์มินอส ตกหลุมรักวัวที่ให้ไป จากความหลงใหล ของราชินีพาซิฟาอี เธอขอให้ช่างฝีมือเอก ของยุคนั้นคือ เดดาลัส
สร้างอุปกรณ์จำลอง เป็นวัวเพศเมีย เพื่อที่เธอจะได้ใกล้ชิด กับวัวศักดิ์สิทธิ์ตัวนั้น ผลของการกระทำนี้ ได้ให้กำเนิด สิ่งมีชีวิตที่ไม่เหมือนใครในโลก นั้นก็คือมิโนทอร์ เด็กชายที่มีร่างกายเป็นมนุษย์ แต่มีศีรษะเป็นวัว นี่เป็นเรื่องอื้อฉาวสุดๆ ในเมืองนั้น [1]
เพื่อซ่อนความอัปยศนี้ กษัตริย์มินอส จึงสั่งให้เดดาลัส สถาปนิก และนักประดิษฐ์ผู้เลื่องชื่อ สร้างเขาวงกตที่ซับซ้อนชื่อ “ลาบิรินธ์” เพื่อกักขังมิโนทอร์ไว้ข้างใน ว่ากันว่าเขาวงกตนี้ ซับซ้อนมาก จนแม้แต่เดดาลัสเอง ก็แทบหาทางออกไม่ได้
มิโนทอร์จึงใช้ชีวิต อยู่ในนั้นตลอดกาล เดินวนไปวนมา ในเขาวงกตอันมืดมิด เขาวงกตนี้มีห้อง และทางเดินนับร้อย ที่ดูเหมือนกันหมด ใครที่เข้าไป ก็จะติดอยู่ข้างในจนตาย เป็นคุกที่โหดร้ายที่สุด ในประวัติศาสตร์กรีก เขาวงกตนี้ตั้งอยู่ใต้ พระราชวังโนซอส (Knossos) [2]
ซึ่งเป็นพระราชวังจริง บนเกาะครีตในปัจจุบัน มิโนทอร์จึงไม่ได้ เป็นแค่อสุรกายในตำนาน แต่เป็นเงาอันน่าหวาดหวั่น ที่ติดตรึงอยู่ในจินตนาการ ของมนุษย์ เช่นเดียวกับ หมึกยักษ์ คราเคน จากท้องทะเลลึก แห่งตำนานนอร์ส มิโนทอร์คือศัตรู ที่ไร้ทางหนี สัตว์ร้ายผู้รอเหยื่ออยู่ในความมืดมิด ของเขาวงกต
ในช่วงเวลาหนึ่ง เมืองเอเธนส์ ได้เกิดความขัดแย้ง กับเกาะครีต และพ่ายแพ้ในสงคราม เพื่อไถ่โทษ และหลีกเลี่ยงการถูกทำลายล้าง ชาวเอเธนส์ต้อง ส่งชายหนุ่ม 7 คน และหญิงสาวอีก 7 คน ไปให้มิโนทอร์เป็นอาหาร ปีละหนึ่งครั้ง เหล่าเยาวชนผู้โชคร้าย จะถูกปล่อยเข้าไป ในเขาวงกต
และถูกมิโนทอร์ไล่ล่า จนกระทั่งตาย เป็นประเพณีที่โหดร้ายสุดๆ ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ การคัดเลือกเหยื่อนั้น ทำโดยการจับฉลาก ทำให้ครอบครัวในเอเธนส์ ต้องอยู่ในความหวาดกลัว ทุกครั้งที่ถึงเวลา บางครั้งก็มีอาสาสมัคร ที่กล้าหาญ แต่ไม่มีใครเคยรอดชีวิต กลับมาเล่าเรื่องได้เลย
จนกระทั่งวันหนึ่ง เจ้าชายธีซีอุส แห่งเอเธนส์ ไม่อาจทนเห็นประชาชน ต้องตกเป็นเหยื่ออีกต่อไป จึงอาสาเป็นหนึ่งในเครื่องบูชายัญ เพื่อจะฆ่ามิโนทอร์ และยุติความโหดร้ายนี้ ก่อนออกเดินทาง พ่อของเขาสั่งว่า ถ้าเขารอดกลับมาได้ ให้เปลี่ยนใบเรือจากสีดำ เป็นสีขาว เพื่อจะได้รู้แต่ไกล ว่าลูกชายยังมีชีวิตอยู่
ธีซีอุสเป็นวีรบุรุษ ที่แข็งแกร่ง และชาญฉลาด เคยปราบโจร และสัตว์ประหลาดมาหลายตัวแล้ว แม้จะรู้ว่าอันตรายมาก แต่เขาก็มุ่งมั่น ที่จะช่วยบ้านเมือง ให้พ้นจากการถูกกดขี่ เมื่อไปถึงครีต เขาได้รับการต้อนรับอย่างเย็นชา และถูกเตรียมส่งเข้าเขาวงกต พร้อมเหยื่อคนอื่นๆ
ธีซีอุสโชคดี ที่ได้รับความช่วยเหลือ จากเจ้าหญิงอารีอัดเน ลูกสาวของกษัตริย์มินอสเอง ที่ตกหลุมรักเขา เธอให้ลูกบอลด้ายวิเศษ แก่ธีซีอุส โดยให้ผูกปลายด้ายไว้ ที่ทางเข้าเขาวงกต แล้วคลี่ด้ายออกไปเรื่อยๆ ขณะที่เดินลึกเข้าไป วิธีนี้ทำให้เขาสามารถ ย้อนกลับออกมาได้ หลังจากฆ่ามิโนทอร์สำเร็จ
นอกจากนี้ เธอยังให้ดาบพิเศษแก่เขา เพื่อใช้ต่อสู้กับมิโนทอร์ด้วย อารีอัดเนเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยธีซีอุส โดยหวังว่าจะได้หนีไปกับเขา และแต่งงานกันที่เอเธนส์ เพราะเธอไม่อยากอยู่กับพ่อ ที่โหดร้ายของเธออีกต่อไป
ในที่สุด ธีซีอุสก็เผชิญหน้า กับมิโนทอร์ในเขาวงกต เกิดการต่อสู้ดุเดือด และในที่สุดธีซีอุส ก็สามารถเอาชนะมิโนทอร์ ได้ด้วยกำลัง และไหวพริบ จากนั้นเขาก็ใช้เส้นด้าย ของอารีอัดเน นำทางกลับออกมา จากเขาวงกต พร้อมพาเจ้าหญิงอารีอัดเน หนีไปด้วย แต่น่าเศร้า ที่ธีซีอุสทิ้งอารีอัดเนไว้
บนเกาะแห่งหนึ่งระหว่างทาง และลืมเปลี่ยนใบเรือ จากสีดำเป็นสีขาว ทำให้พ่อของเขา คิดว่าเขาตายแล้ว และกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย เป็นเรื่องที่จบ แบบขมขื่นจริงๆ [3] บางตำนานเล่าว่า เทพไดโอนีซัส เทพแห่งไวน์ และความสนุกสนาน เห็นอารีอัดเนร้องไห้อยู่บนเกาะ จึงมาปลอบใจ และแต่งงานกับเธอ
บางตำนานก็เล่าว่า เทพไดโอนิซุส ได้ตกหลุมรักอารีอัดเน และสั่งให้ธีเซอุส ละทิ้งเธอไว้บนเกาะโนซอส เพื่อที่เทพจะได้แต่งงานกับเธอเอง ซึ่งต่อมาเธอก็กลายเป็นภรรยา ของไดโอนิซุสในสวรรค์
มิโนทอร์ มนุษย์ครึ่งวัว ไม่ใช่แค่ตำนาน ที่เล่าขานเพื่อความบันเทิง แต่คือบทสะท้อน ของความผิดพลาด ที่เริ่มจากคำโกหกเล็กน้อย ขยายจนกลายเป็นความพังทลาย ของชีวิตหลายชีวิต เป็นเครื่องเตือนใจว่า ความหลงผิด และอำนาจที่ไม่ยั้งคิด สามารถสร้าง “สัตว์ประหลาด” ขึ้นมาได้ทั้งในโลกจริง และในใจเราเอง
มิโนทอร์เกิดจาก ความรักต้องห้าม ระหว่างราชินีพาซิฟาอี กับวัวสีขาว ที่เป็นของขวัญจากเทพโพไซดอน เรื่องนี้เกิดขึ้น เพราะกษัตริย์มินอส ผิดคำสาบานกับเทพ ทำให้เทพโพไซดอน สาปให้ราชินีหลงรักวัวตัวนั้น และให้กำเนิดบุตรที่ มีร่างกายเป็นมนุษย์ แต่มีหัวเป็นวัว
กษัตริย์มิมินอสอับอาย กับการมีบุตร ที่มีร่างเป็นสัตว์ประหลาด จึงสั่งให้เดดาลัส สร้างเขาวงกต เพื่อซ่อนความอัปยศนี้ และกักขังมิโนทอร์ไว้ในนั้น เขาวงกตเป็นสิ่งก่อสร้าง ที่ซับซ้อนมาก มีห้อง และทางเดินนับร้อย ที่ดูเหมือนกันหมด ทำให้ใครที่เข้าไปแล้ว แทบไม่มีทางหาทางออกได้